มูลฐานทางเรขาคณิต ของ การเห็นเป็น 3 มิติ

ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม การเห็นเป็น 3 มิติดูเหมือนจะมีการแปลผลในเปลือกสมองส่วนการเห็นที่ binocular neurons (เซลล์ประสาทสองตา) ซึ่งมีลานรับสัญญาณในตำแหน่งตามแนวนอนที่ต่างกันในตาทั้งสองเซลล์เช่นนี้จะทำงานเมื่อสิ่งเร้าที่เร้ามันได้ดีที่สุด (preferred stimulus) จะอยู่ที่ตำแหน่งซึ่งถูกต้องในตาซ้ายและตำแหน่งซึ่งถูกต้องในตาขวา ซึ่งแสดงว่ามันตรวจจับความต่างที่เห็นด้วยสองตา (Binocular disparity)เมื่อบุคคลจ้องที่วัตถุหนึ่ง ๆ ตาทั้งสองจะเบนเข้าเพื่อให้วัตถุปรากฏที่กลางจอตาของทั้งสองตาวัตถุอื่น ๆ รอบ ๆ ก็จะมีภาพเลื่อนไปโดยเปรียบเทียบกับวัตถุหลักในตัวอย่างต่อไปนี้ วัตถุหลักคือปลาโลมาจะคงอยู่ที่กลางจอตา ส่วนภาพลูกบาศก์จะเลื่อนไปทางขวาในในตาซ้าย และเคลื่อนไปท้ายซ้ายในตาขวา

ตาทั้งสองจะเบนเข้าหาวัตถุที่จ้องดู ภาพลูกบาศก์จะเลื่อนไปทางขวาในตาซ้าย ภาพลูกบาศก์จะเลื่อนไปทางซ้ายในตาขวา
เราเห็นภาพรวมภาพเดียว (cyclopean image) จากตาทั้งสอง ในภาพรวม สมองจะให้จุดแต่ละจุดค่าความใกล้ไกล รูปแสดงความใกล้ไกลแบบสเกลสีเทา

เพราะตาแต่ละข้างอยู่ในตำแหน่งตามแนวนอนที่ต่างกัน แต่ละข้างก็จะมีภาพตกลงที่จอตาต่างกันสำหรับทัศนียภาพเดียวกันแต่ปกติเราจะไม่เห็นเป็นสองภาพ แต่เห็นเป็นภาพเดียวถึงอย่างไรก็ดี การมองเห็นเป็น 3 มิติก็ยังเป็นไปได้แม้เห็นภาพซ้อนโดยการเห็นแบบนี้เรียกว่า การเห็นเป็น 3 มิติเชิงคุณภาพ (qualitative stereopsis)[41]

แต่ถ้าภาพต่างกันมาก (เช่น ถ้าตั้งใจมองให้ตาเหล่ หรือแสดงภาพต่างกันแต่ละข้างด้วยกล้องมองภาพสามมิติ) ก็อาจจะเห็นเพียงภาพเดียวในแต่ละขณะ ๆ สลับกันระหว่างภาพซึ่งแสดงที่ตาซ้ายและขวา เป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่าการแข่งขันระหว่างสองตา (binocular rivalry)

การมองเห็นเป็น 3 มิติอาจมีภาวะฮิสเทอรีซิสบางอย่าง คือการทำงานบางอย่างของมันจะขึ้นอยู่กับภาวะของมันในอดีต[42]เช่น เมื่อการเห็นเป็นภาพเดียวและเป็น 3 มิติเสถียรแล้ว ก็จะสามารถคงอยู่ต่อไปได้แม้ถ้าภาพทั้งสองจะดึงออกจากกันแบบสมมาตรตามแนวนอนโดยระดับหนึ่งในแนวตั้ง ก็จะมีปรากฏการณ์เช่นเดียวกันแต่ในระดับที่น้อยกว่าปรากฏการณ์นี้ได้แสดงเป็นครั้งแรกโดยใช้ภาพ 3 มิติที่ทำจากจุดสุ่ม (random-dot stereograms) ซึ่งในตอนแรกอธิบายโดยขยายทฤษฎี Panum's fusional area[43]แต่ต่อมาจึงชัดเจนว่า ภาวะฮิสเทอรีซิสอื่น ๆ เกี่ยวกับการเห็นเป็น 3 มิติก็มีนอกเหนือจากเรื่อง Panum's fusional area[44]

ผังแสดงความสัมพันธ์ของความต่างที่ปรากฏในภาพทั้งสอง กับความใกล้ไกลของวัตถุ ที่ใช้ในการคำนวณของคอมพิวเตอร์ ให้สังเกตว่า ภาพของวัตถุจะตกลงในจอภาพสองจอที่อยู่ในระนาบเดียวกัน ซึ่งต่างจากตามนุษย์

แหล่งที่มา

WikiPedia: การเห็นเป็น 3 มิติ http://opto.ca/openyoureyes/eye-diseases/vision-th... http://www.allaboutvision.com/conditions/strabismu... http://www.easystereogrambuilder.com/HowTheyWork.a... http://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S... http://www.stereoscopy.com/library/wheatstone-pape... http://medical-dictionary.thefreedictionary.com/La... http://www.vision3d.com/stereo.html http://visionhelp.wordpress.com/2011/06/21/the-dua... http://vision.middlebury.edu/stereo/ http://webvision.med.utah.edu/book/part-viii-gabac...